การประชุมเฟดเสร็จสิ้นแล้ว NFP ยังต้องมาอีก

ข้อสรุปที่สำคัญเบื้องต้นจากการประชุมเฟดคือ เจอโรม พาวเวลล์ มองว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ และนี่เองคือสิ่งที่กระตุ้นให้ตลาดเกิดปฏิกิริยาขึ้น เมื่อความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเริ่มคลี่คลายลง ผลตอบแทนของดอลลาร์สหรัฐและพันธบัตรก็ลดลงเล็กน้อย ดัชนีดอลลาร์ (DXY) ลดลงประมาณ 0.2% แม้ว่าจะยังคงใกล้เคียงกับระดับสูงสุดล่าสุด เนื่องจากไม่มีสัญญาณใดๆ ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้จากการประชุม FOMC  

อัตราแลกเปลี่ยน USDJPY เคลื่อนไหวขึ้น ๆ ลง ๆ ในสัปดาห์นี้ โดยสัญญาณทั้งหมดชี้ไปที่การแทรกแซงที่เกิดขึ้นในนามของเงินเยนที่กำลังตกต่ำ ระดับ 160 ดูเหมือนจะเป็นระดับที่ทำให้ทางการญี่ปุ่นเกิดความปั่นป่วนมากที่สุด และความมุ่งมั่นของพวกเขาที่จะปกป้องระดับนี้อาจได้รับการทดสอบเพิ่มเติมโดยผู้ถือครองเงินเยนในอีกไม่กี่วันหรือสัปดาห์ข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราเห็นผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลฟื้นตัวขึ้น ซึ่งอาจช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ ทางการญี่ปุ่นอาจกำลังลุ้นและหวังว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ จะออกมาอ่อนค่าลงในวันศุกร์นี้  

การที่ดอลลาร์สหรัฐและผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลดลง (หลังการประชุม FOMC) ส่งผลดีต่อราคาทองคำ โดยโลหะมีค่าปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 2,300 ดอลลาร์ แม้ว่าประเด็นสำคัญในการประชุม FOMC สำหรับนักลงทุนในตอนแรกคือ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นนั้นดูเหมือนจะไม่อยู่ในเรดาร์ แต่หากความสนใจเปลี่ยนไปที่ผลลัพธ์อื่นของการประชุม ซึ่งก็คือ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยดูเหมือนจะอยู่ไกลออกไป ผลตอบแทนดอลลาร์สหรัฐและพันธบัตรอาจกลับมาเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ ระดับแนวต้านถัดไปสำหรับทองคำที่จะเคลื่อนตัวขึ้นคือ 2,326 ดอลลาร์ ในขณะที่แนวรับอยู่ที่ 2,284 ดอลลาร์ที่ด้านต่ำ  

ราคาน้ำมันดิบลดลงเนื่องจากปริมาณสำรองน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นและข้อเสนอหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 80 เหรียญสหรัฐฯ โดยร่วงลงมากกว่า 3% หากไม่มีความคืบหน้าใดๆ เกี่ยวกับการหยุดยิง ราคาน้ำมันอาจฟื้นตัวขึ้นและความกังวลเรื่องอุปทานก็กลับมามีขึ้นอีกครั้ง แต่สำหรับตอนนี้ กำลังการผลิตส่วนเกินตามที่ระบุจากปริมาณสำรองน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นยังคงกดดันราคาน้ำมัน  

แม้ว่าการประชุม FOMC ในเดือนพฤษภาคมจะเสร็จสิ้นไปแล้ว แต่สัปดาห์นี้ก็ยังมีความเสี่ยงสำคัญจากเหตุการณ์ NFP (การจ้างงานนอกภาคเกษตร) ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นประมาณ 238,000 ตำแหน่งในเดือนเมษายน ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีแนวโน้มว่าตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ จะสูงเกินคาด และหากตัวเลขดังกล่าวยังคงสูงต่อไป อาจทำให้ระยะเวลาที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยต้องเลื่อนออกไป ดังนั้น ทุกสายตาจะจับจ้องไปที่ข้อมูลการจ้างงานล่าสุดของสหรัฐฯ ขณะที่ตลาดยังคงคาดเดาว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกจะเกิดขึ้นเมื่อใด